มังคุด ราชินีแห่งผลไม้


มังคุด  ราชินีแห่งผลไม้ 


วันนี้เราจะมาคุยกันเกี่ยวเรื่องมังคุดนะครับ ที่เรากินบ่อยๆ ว่ามีประโยชน์อะไรบ้างกันนะครับ
"มังคุด" ได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งผลไม้" (Queen of Fruits) ด้วยคุณประโยชน์ที่มีให้มากกว่าความเป็นผลไม้ 

ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย (www.mangosteenrd.com) นำเสนอผลงานวิจัยมังคุดที่ศึกษามายาวนานกว่า 32 ปี 

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัยศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย บอกว่า มังคุดถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูง มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ พบว่ามังคุดมีสารต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพหากมีการนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง 

"มังคุดมีประโยชน์เชิงสุขภาพ สามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุลทำให้ลดอาการที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ภูมิตัวเองและการอักเสบ เช่น ตับเสื่อม ไตวาย เบาหวาน ข้อเข่าอักเสบ ความดันโลหิต โรคพาร์กินสัน ไทรอยด์เป็นพิษ และความผิดปกติของสมองอันเกิดจากการอักเสบ เป็นต้น" 



นอกจากนี้ มังคุดยังมีสารที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูง คือ สาร จีเอ็ม-1 นำมาเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง สำหรับผู้มีปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้ 
อย่างไรก็ดี คุณประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพของ "มังคุด" เกิดจากเนื้อมังคุดที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึง "น้ำมังคุด" ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุด ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ผลิตน้ำมังคุดมาตรฐานเพื่อให้เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เป็นยา โดยปัจจุบันจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายกว่า 10 ประเทศทั่วโลก 
แม้มังคุดจะมีประโยชน์สารพัด แต่ก็มีโทษ โดยเฉพาะสาร "แทนนิน" ที่อยู่ในเปลือกมังคุด 
ศ.ดร.พิเชษฐ์บอกว่า หากบริโภคสารแทนนินอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้เกิดเป็นพิษต่อตับ ไต และถ้าบริโภคในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่การเกิดมะเร็งในร่องแก้ม ในทางเดินอาหารส่วนบน และลดจำนวนของเม็ดเลือดขาวจนทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติได้ 
"ปัจจุบันมีผู้นำส่วนต่างๆ ของมังคุดไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและการบริโภคที่เหมาะสม ซึ่งจะมีโทษต่อผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง" ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย


สรรพคุณต่างๆ จากมังคุด
  • ผลของการศึกษาฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระโดยวิธี ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) ทำการเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้อื่นๆและมังคุด พบว่า มังคุดมีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระมากกว่า แครอท ราสเบอรรี่ บลูเบอรรี่ ทับทิม
  • ผลจากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารแซนโทน จึงป้องกันการเกิดออกซิเดชันของ LDL ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลตัวร้าย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอีกทั้งยังลดการทำลายเซลล์ อันเป็นผลจากปฏิกิริยาลูกโซ่ จึงช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการแก่ได้ด้วย
  • มีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่างๆรวมถึงการตายของเซลล์มะเร็งในการศึกษาระดับห้องปฎิบัติการ เช่น เซลล์มะเร็งเต้านม, เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว, เซลล์มะเร็งตับ, กระเพาะอาหาร และเซลล์มะเร็งปอด
  • มีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อวัณโรค, เชื้อ S. Enteritidis และเชื้อ HIV
  • สามารถยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามีน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันโรคภูมิแพ้
  • สามารถยับยั้งการสังเคราะห์สารพลอสตาแกลนดินอีทู ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกระบวนการอักเสบต่างๆ เช่น การปวดอักเสบ กล้ามเนื้อและข้อ
  • มีฤทธิ์ในการช่วยขยายตัวของหลอดเลือด ดังนั้นจึงมีประโยชน์ในการลดความดันโลหิต


  • ที่มา:http://www.healthcorners.com